บทช่วยสอนนี้อธิบายวิธีแปลงภาพสแกนไปเป็นภาพเวกเตอร์ กระบวนการนี้มีชื่อเรียกว่า การลอกลาย หรือการปรับให้เป็นเวกเตอร์ และสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง หรือใช้เครื่องมืออัตโนมัติ ในบทช่วยสอนนี้ เราอธิบายวิธีที่ใช้ Vector Magic เพื่อดำเนินการแปลงภาพแบบนี้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
บทช่วยสอนนี้ใช้ได้กับ :
แต่ไม่ใช้กับ :
บทช่วยสอนนี้จะใช้ Vector Magic รุ่นเดสก์ท็อป คุณสามารถดาวน์โหลดเวอร์ชันทดลองได้จาก หน้าแอปพลิเคชันเดสก์ท็อป
รุ่นออนไลน์มีความคล้ายคลึงกับโหมดอัตโนมัติเต็มรูปแบบในรุ่นเดสก์ท็อปมาก อินเตอร์เฟซผู้ใช้ดูแตกต่างกันเล็กน้อย และไม่รองรับความโปร่งใส เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว คุณสามารถใช้รุ่นออนไลน์เพื่อฝึกหัดตามบทช่วยสอนนี้ได้
ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์การสแกนมีความแตกต่างกันตามบริษัทผู้ผลิต ดังนั้นเราจะแสดงข้อสังเกตไว้แบบกว้าง ๆ ข้อสังเกตต่อไปนี้เป็นแนวทางเท่านั้น โปรดทดลองใช้ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และภาพต้นฉบับที่เฉพาะเจาะจงของคุณเอง เพื่อหาตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับงานของคุณ เราพบว่า :
ส่วนภาพต้นฉบับแบบภาพขาวดำ หรือโทนสีเทา ให้ลองตัวเลือกการสแกนโทนสีเทา
เราได้ทำการทดลองย่อย ๆ เพื่อแสดงให้เห็นคุณลักษณะของภาพสแกน
ในหัวข้อนี้ เราจะอธิบายสิ่งที่เราค้นพบ อย่างที่ได้กล่าวไว้แล้วในหัวข้อหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดข้างต้น เราสรุปไว้ว่าการสแกนที่ความละเอียดสูงกว่า 300 dpi เป็นการกระทำที่ไม่สมเหตุผล แน่นอนว่า การสแกนที่ 600 dpi จะให้ภาพที่ใหญ่ขึ้นเป็น 2 เท่า และเบลอมากเป็น 2 เท่าด้วยเช่นกัน
ตัวภาพสแกนเองมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะแสดงไว้ในบทช่วยสอนนี้ แต่นี่คือลิงก์ที่นำไปยังขนาดต่าง ๆ: 150 DPI, 300 DPI, และ 600 DPI
การซูมเข้าที่ขอบในภาพจะแสดงให้เห็นรายละเอียดที่เป็นประโยชน์
|
|
|
ในกรณีของภาพ 150 dpi ขอบนั้นมีความเบลอที่กว้างเพียงแค่ 1 พิกเซลเท่านั้น นี่เป็นลักษณะที่ควรเป็น หากขอบนั้นมีความคมไม่สิ้นสุด เซ็นเซอร์ของเครื่องสแกนเนอร์ก็ควรมองเห็นขอบนั้นเพียงแค่ 1 พิกเซลเท่านั้น พิกเซลนั้นควรเป็นสีเทาที่เหมาะสม โดยขึ้นอยู่กับว่าขอบนั้นคร่อมอยู่บนพิกเซลมากเพียงใด
ในกรณีของ 300 dpi ความเบลอกินพื้นที่ หรือ 2 หรือ 3 พิกเซล ซึ่งระบุว่าเกิดความเบลอขึ้นบ้าง แต่ไม่มีความชัดเจนว่าเป็นเพราะขีดจำกัดทางกายภาพของเซ็นเซอร์หรือการประมวลผลที่เกิดจากเครื่องสแกนหรือซอฟต์แวร์ของเครื่องสแกน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ความละเอียดที่ใช้งานจริงในขั้นสุดท้ายของภาพนี้ไม่ใช่ 300 dpi อย่างแน่นอน
ในทำนองเดียวกัน กรณีของ 600 dpi ที่ความเบลอกินพื้นที่ 3 หรือ 4 พิกเซล ก็ควรถือว่าความเบลอในภาพสแกนนั้นมีความละเอียดที่ใช้งานจริงในขั้นสุดท้ายต่ำกว่าความละเอียดที่สแกนไว้มาก
ในกรณีนี้ เราคิดว่าการสแกนที่ 150 dpi มีความเหมาะสมมากที่สุด หากมีเครื่องสแกนที่ดีกว่านี้ การสแกนที่ 300 dpi ก็อาจเหมาะสมกว่า
เราได้เลือกใช้ภาพสแกนที่มีความละเอียด 150 dpi แล้วใช้ Vector Magic รุ่นเดสก์ท็อปเพื่อปรับภาพให้เป็นเวกเตอร์ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ :
โดยมากแล้ว ภาพผลลัพธ์มีคุณภาพดีมาก แต่อาจมีบางมุมที่โค้งมนเล็กน้อย ทั้ง ๆ ภาพต้นฉบับมีความคมชัด แต่ส่วนใหญ่แล้ว ภาพผลลัพธ์ที่เป็นเวกเตอร์จะตรงกับภาพต้นฉบับมากทีเดียว ภาพเอาต์พุตในรูป SVG จากการปรับให้เป็นเวกเตอร์นี้สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่
ภาพหน้าจอด้านล่างแสดงภาพผลลัพธ์ตรงส่วนที่ซูมเข้าไป ภาพแรกคือผลลัพธ์ที่เป็นเวกเตอร์ ภาพที่สองเป็นส่วนที่ตรงกันในภาพบิตแมป ส่วนภาพที่สามเป็นภาพที่นำเส้นเวกเตอร์มาซ้อนทับบนภาพบิตแมปต้นฉบับ ในส่วนนี้ ภาพผลลัพธ์จะดูคมชัดสะอาดตา และสร้างให้เห็นรูปร่างดั้งเดิมได้อย่างชัดเจน
น่าเสียดายที่ว่า ภาพต้นฉบับบางภาพไม่มีความคมชัดสะอาดตาเหมือนในตัวอย่างก่อนหน้านี้ ตัวอย่างดังกล่าวสร้างขึ้นโดยการพิมพ์ภาพกราฟิกแบบเวกเตอร์ด้วยเครื่องพิมพ์เลเซอร์ จากนั้นสแกนกลับเข้าไปทันที ตัวอย่างต่อไปนี้มีความท้าทายกว่ามาก
ภาพนี้เป็นภาพสแกนที่พบกันเป็นส่วนใหญ่ บุคคลที่สแกนภาพนี้ทำผิดตรงที่ใช้งานเครื่องสแกนในโหมดสี ดังนั้นจึงมีขอบสีที่ผิดเพี้ยนตามขอบเขตของรูปร่าง คุณภาพการพิมพ์ต้นฉบับดูเหมือนจะไม่ดี และโดยทั่วไปแล้วรูปร่างจะผิดปกติราวกับว่าวาดด้วยมือ ภาพด้านล่างแสดงให้เห็นภาพแบบลดขนาด ส่วนภาพที่มีความละเอียดเต็มที่มีให้ดูได้ที่นี่
ภาพซูมต่อไปนี้แสดงให้เห็นปัญหาท้าทายบางส่วนในภาพต้นฉบับนี้
สีเพี้ยนปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ด้านบนของรูปร่างสีขาวมีสีฟ้าปน ส่วนด้านล่างออกสีแดง นอกจากนี้ขอบยังมีลักษณะผิดปกติมากด้วย
อีกครั้งที่เราใช้ Vector Magic รุ่นเดสก์ท็อปเพื่อปรับภาพนี้ให้เป็นเวกเตอร์ ในกรณีนี้ เราลองใช้การตั้งค่าคุณภาพทั้งแบบ "ปานกลาง" และ "ต่ำ" เพื่อดูว่าจะให้ผลอย่างไร
โปรดทราบว่า เมื่อมีการโหลดภาพขนาดใหญ่เช่นภาพนี้เข้าไปใน Vector Magic รุ่นเดสก์ท็อป โปรแกรมจะวิเคราะห์ภาพเพื่อตัดสินว่าสมควรที่จะลดขนาดของภาพหรือไม่ โปรดทราบว่าฟังก์ชันการปรับขนาดที่ใช้นั้นได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดีเพื่อปรับปรุงคุณภาพให้มากที่สุด โดยอาศัยการเฉลี่ยพิกเซลอย่างมีประสิทธิผล คุณลักษณะการปรับขนาดส่วนใหญ่ในโปรแกรมแก้ไขภาพบิตโดยทั่วไปไม่ใช้การปรับขนาดด้วยวิธีนี้ ดังนั้นกรุณาใช้ Vector Magic เพื่อดำเนินการลดขนาด และอย่าเพิ่มขนาดภาพบิตแมปก่อนที่จะโหลดเข้าไปใน Vector Magic เป็นอันขาด เพราะการกระทำดังกล่าวดีแต่จะทำให้ผลลัพธ์มีคุณภาพต่ำลง
ผลลัพธ์มีให้ดูได้ที่นี่ : คุณภาพต่ำ (SVG), คุณภาพปานกลาง (SVG)
สามภาพถัดไปแสดงให้เห็นภาพสแกนต้นฉบับ 1 ภาพ และผลลัพธ์ที่ปรับให้เป็นเวกเตอร์ 2 ภาพ ภาคแรกคือต้นฉบับ ภาพที่สองมาจากผลลัพธ์ที่มีคุณภาพต่ำ ส่วนภาพที่สามเป็นผลลัพธ์ที่มีคุณภาพปานกลาง
การตัดสินว่าผลลัพธ์แบบใดในสองแบบนี้ดีกว่ากันเป็นเรื่องของความชอบ ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพต่ำใช้โหนดน้อยกว่า และส่งผลให้มีรูปทรงเรขาคณิตที่เรียบง่ายกว่า ส่วนผลลัพธ์ที่มีคุณภาพปานกลางทำให้เกิดรูปทรงเรขาคณิตที่ใกล้เคียงภาพต้นฉบับมากกว่า แต่ก็ใช้โหนดมากกว่าด้วย โดยส่วนตัวแล้วเราชอบผลลัพธ์จากคุณภาพปานกลาง แต่ทั้งสองภาพก็มีข้อดีทั้งคู่
ในภาพสุดท้ายนั้น เราได้นำเส้นทางเวกเตอร์จากผลลัพธ์แบบปานกลางมาซ้อนทับบนภาพบิตแมป เช่นเคย คุณจะเห็นว่าเส้นทางเวกเตอร์เดินตามภาพบิตแมปต้นฉบับอย่างใกล้ชิด คุณลักษณะนี้เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ยอดเยี่ยมของ Vector Magic เมื่อเทียบกับเครื่องมืออื่น ๆ ที่ใช้ปรับภาพให้เป็นเวกเตอร์โดยอัตโนมัติ
บทช่วยสอนนี้จะให้แนวทางปฏิบัติและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการปรับภาพสแกนให้เป็นเวกเตอร์โดยใช้ Vector Magic รุ่นเดสก์ท็อป เราได้นำเสนอเคล็ดลับในทางปฏิบัติจำนวนมากเพื่อช่วยให้คุณได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากภาพต้นฉบับและเครื่องสแกนของคุณ ทั้งยังได้แสดงตัวอย่างของการปรับภาพสแกนให้เป็นเวกเตอร์ไว้ 2 ตัวอย่าง: ตัวอย่างแรกคือ การสแกนแบบคุณภาพสูงจากภาพต้นฉบับคุณภาพดีที่คมชัด และตัวอย่างที่สองคือ การสแกนแบบคุณภาพต่ำจากภาพต้นฉบับคุณภาพต่ำ
เราขอสนับสนุนให้คุณทดลองใช้งานดู Vector Magic อาจเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการปรับภาพสแกนให้เป็นเวกเตอร์หากใช้งานอย่างถูกต้อง